หอควบคุมช่วยจัดการความแปรปรวนของห่วงโซ่อุปทานและเพิ่มรายได้ได้อย่างไร

แนวคิดของหอควบคุมห่วงโซ่อุปทานไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีการใช้งานมานานกว่าทศวรรษแล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของห่วงโซ่อุปทานเมื่อเร็วๆ นี้ แนวคิดหอควบคุมจึงฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพื่อเพิ่มการมองเห็นในการดำเนินธุรกิจ และทำให้ห่วงโซ่อุปทานมีความยั่งยืนและเชื่อถือได้มากขึ้น วิธีการแบบหอควบคุมช่วยให้ผู้ใช้ได้รับภาพรวมของการดำเนินงานเพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงปรับการผลิตและการขนส่งให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก  

หอควบคุมที่วางแผนไว้อย่างดีเป็นศูนย์กลางรวมศูนย์ที่มีเทคโนโลยีที่จำเป็น เครื่องมือขององค์กร บุคลากร และกระบวนการที่จำเป็นในการรวบรวมข้อมูลจากทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทานเพื่อการมองเห็นแบบเรียลไทม์ อาจเป็นวิธีการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนและความแปรปรวนได้

ตามการวิจัยของ Grand View ตลาดหอควบคุมทั่วโลกที่มีมูลค่า 5.28 พันล้านดอลลาร์คาดว่าจะขยายตัวที่อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 16.7% จากปี 2020 ถึง 2027 รายงานยังระบุต่อไปว่าหอควบคุมกำลังมีความโดดเด่นในห่วงโซ่อุปทานและระบบนิเวศการขนส่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทำให้ง่ายต่อการติดตามการส่งมอบแบบเรียลไทม์และทำให้กระบวนการจัดส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หอควบคุมที่สามารถปรับขนาดและปรับเปลี่ยนได้สามารถมอบผลประโยชน์ที่จับต้องได้ เช่น รายได้ที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพของสินทรัพย์ การลดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และการตอบสนองที่เพิ่มขึ้น